การตรวจสอบการกัดกร่อน(corrosion monitoring) คือ กระบวนการการกำหนดวิธีการและการตรวจสอบอุปกรณ์ต่างๆที่ใช้งานอยู่ เช่น ในโรงงานอุตสาหกรรม ถังบรรจุผลิตภัณท์ขนานใหญ่ ท่อลำเลียงผลิตภัณท์ต่างๆ และอุปกรณ์อื่นๆ อีกมากมายเพื่อให้รู้ถึงการเกิดการกัดกร่อน (corrosion) ของอุปกรณ์เหล่านี้.
การตรวจสอบการกัดกร่อน (corrosion monitoring) ดำเนินการเพื่อให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ต่างๆที่ใช้งานอยู่มีอายุการใช้งานยาวนานและมีความปลอดภัยตลอดอายุการใช้งาน
การกัดกร่อน (corrosion) เป็นกระบวนการการเกิดที่ซับซ้อนและตรวจสอบได้ยาก ซึ่งอาจส่งผลกระทบในวงกว้างหรือเกิดขึ้นเฉพาะจุดได้จุดหนึ่งในกระบวนการผลิต สาเหตุของการกัดกร่อน (corrosion) มีมากมาย เช่น ปฏิกริยาต่างๆที่เกิดขึ้นรวมถึง ปฏิกริยาไฟฟ้าเคมี (electrochemical ), ปฏิกริยาเคมี (chemical), ปฏิกริยาแบคทีเรีย (bacterial ), ปฏิกริยาการสึกกร่อน (erosion ) หรือการสูญเสียฟิล์มป้องกัน (protective film loss) ฯลฯ และบริเวณที่ได้รับผลกระทบจากการกัดกร่อน (corrosion) นั้นไม่สามารถระบุได้โดยง่าย.
การกัดกร่อน (corrosion) เป็นสาเหตุหลักในการเกิดอันตรายต่อความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมและเป็นการเพิ่มต้นทุนทางการเงินเสำหรับอุตสาหกรรมในการสูญเสียการผลิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกระบวนการผลิตซึ่งเกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ที่เป็นอันตรายหรืออาจเกิดการระเบิดได้ เช่น กระบวนการผลิตของน้ำมัน กระบวนการผลิตก๊าซ และกระบวนการผลิตเกี่ยวกับอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ซึ่งการเกิดอันตรายเหล่านี้จะเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อโรงงานต่างๆในกระบวนการผลิตและอุปกรณ์ที่ใช้งานอยู่มีอายุมากขึ้น และมีแนวโน้มที่จะเกิดการกัดกร่อน (corrosion) และส่งผลให้อุปกรณ์เสียหายทำให้เกิดการสูญเสียทั้งทางตรงและทางอ้อม.
การตรวจสอบการกัดกร่อน (corrosion) ในเชิงรุกช่วยป้องกันไม่ให้เกิดความสูญเสียต่อ ชีวิต สิ่งแวดล้อม และการเงิน และยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการกระบวนการผลิตอีกทั้งยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาและช่วยยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ต่างๆ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มให้เกิดการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดของผลิตภัณฑ์.
การตรวจสอบการกัดกร่อน (corrosion monitoring) สามารถแบ่งออกเป็นสองส่วนพื้นฐานหลักๆ คือการการตรวจสอบ (inspection) และการตรวจวัด (measuring)
การตรวจสอบ (Inspection)
เทคนิคการทดสอบแบบไม่ทำลาย (Nondestructive testing) ใช้ในการค้นหา ระบุ และตรวจสอบอัตราการเกิดความเสียหายจากการกัดกร่อน(corrosion) วิธี NDT ที่ใช้บ่อยที่สุดในการตรวจจับการกัดกร่อน(corrosion) ได้แก่ การทดสอบด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง (UT), การทดสอบด้วยรังสีเอกซ์ (X-ray) และการรั่วไหลของสนามแม่เหล็กไฟฟ้า.
การตรวจวัด (measuring)
การตรวจวัดการกัดกร่อน (corrosion monitoring) เป็นวิธีการแก้ปัญหาที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถลดความเสี่ยงต่างๆที่อาจเกิดขึ้นและลดการหยุดกระบวนการผลิตของโรงงานที่ไม่จำเป็น และยังช่วยยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ต่างๆเพื่อเป็นการลดต้นทุนในการผลิตป็นอย่างมาก.
การตรวจวัดการกัดกร่อนโดยตรง (direct corrosion) สามารถทำได้ในขณะที่อุปกรณ์ต่างๆกำลังทำงานอยู่ โดยไม่ต้องหยุดกระบวนการผลิต.
ระบบตรวจสอบการกัดกร่อน (corrosion monitoring) ที่พบบ่อยที่สุด ได้แก่ การใช้การติดตั้งอุปกรณ์เพื่อตรวจวัดการสูญเสียน้ำหนัก (corrosion coupons), การติดตั้งอุปกรณ์เพื่อตรวจวัดความต้านทานทางไฟฟ้า (electrical resistance probes), การติดตั้งอุปกรณ์เพื่อวัดความต้านทานเชิงเส้น (linear polarization resistance probes), และการติดตั้งอุปกรณ์เพื่อตรวจสอบศักย์ทางไฟฟ้า
(galvanic monitoring).
วิธีการตรวจสอบขั้นสูงรวมถึงการตรวจสอบทางชีวภาพ (biological monitoring), การตรวจสอบด้านสิ่งแวดล้อม (environmental) และการตรวจสอบความหนาอัลตราโซนิก (ultrasonic thickness). ระบบตรวจสอบการกัดกร่อน (corrosion monitoring) อาจใช้วิธีการตรวจสอบทั่วไปหรือวิธีการตรวจสอบขั้นสูงอย่างใดอย่างหนึ่ง หรืออาจใช้ทั่งสองวิธีร่วมกันเพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงสุดในการตรวจสอบ.
การติดตั้งอุปกรณ์เพื่อตรวจวัดการสูญเสียน้ำหนัก (corrosion coupons) เป็นรูปแบบการตรวจสอบการกัดกร่อน (corrosion monitoring) ที่ดังเดิมที่สุด และสามารถใช้ได้ในทุกสภาพแวดล้อม คูปอง (coupons) คือชิ้นส่วนของตัวอย่างวัสดุของโลหะหรืออโลหะที่เหมือนกันกับวัสดุของอุปกรณ์ที่ใช้งานที่ต้องการตรวจสอบ และรู้น้ำหนักของคูปอง (coupons) ก่อนติดตั้งอย่างแม่นยำ.
คูปอง (coupons) จะถูกติดตั้งในกระบวนการผลิตในสภาพแวดล้อมที่เกิดกัดกร่อน และนำออกหลังจากช่วงระยะเวลาหนึ่ง หลังจากการติดตั้ง หลังจากนั้นจึงนำไปวิเคราะห์โดยห้องปฏิบัติการ (laboratory) เพื่อ:
ข้อเสียเปรียบของการติดตั้ง คูปอง (coupons) คือจะไม่สามารถรวบรวมข้อมูลหรือตรวจสอบข้อมูลการกัดกร่อนแบบเรียลไทม์ (real time)ได้ และไม่สามารถระบุอัตราการกัดกร่อนได้อย่างถูกต้องแม่นยำตามสภาวะการเปลี่ยนแปลงไปของกระบวนการผลิตที่สนใจโดยเฉพาะ.
การติดตั้งอุปกรณ์เพื่อตรวจวัดความต้านทานทางไฟฟ้า (electrical resistance probes) คือวัดการเปลี่ยนแปลงความต้านทานไฟฟ้าของอุปกรณ์ที่ติดตั้งและสามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับการสูญเสียของเนื้อโลหะ เครื่องมือตวรจวัดนี้ (probes) สามารถทำงานได้ในทุกสภาพแวดล้อมในระยะเวลาการใช้งานที่ยาวนาน สามารถให้ข้อมูลเป็นระยะหรือต่อเนื่องเกี่ยวกับอัตราการกัดกร่อน และยังสามารถใช้เพื่อตรวจสอบผลกระทบต่ออัตราการกัดกร่อนอย่างถูกต้องแม่นยำตามสภาวะการที่เปลี่ยนแปลงไปของกระบวนการผลิตที่สนใจโดยเฉพาะ.
การติดตั้งอุปกรณ์เพื่อวัดความต้านทานเชิงเส้น (linear polarization resistance probes) คือการใช้เทคนิคทางไฟฟ้าเคมี (electrochemical technique) ที่สามารถใช้ได้เฉพาะกับผลิตภัณฑ์ที่เป็นสื่อทางไฟฟ้าและเป็นเหลวเท่านั้น หัววัด LPR (LPR probe) ทำงานโดยใช้หลักการการตรวจวัดของกระแสไฟฟ้าและวัดอัตราการเกิดกัดกร่อนในขณะนั้นทันที และยังสามารถให้ข้อมูลการเกิดกัดกร่อนเป็นช่วงระยะเวลาใดเวลาหนึ่งหรือให้ข้อมูลการเกิดกัดกร่อนในระยะเวลาต่อเนื่องได้ และยังสามารถใช้เพื่อตรวจสอบผลกระทบต่ออัตราการกัดกร่อนอย่างถูกต้องแม่นยำตามสภาวะการที่เปลี่ยนแปลงไปของกระบวนการผลิตที่สนใจโดยเฉพาะ.
Zero Resistance Ammetry (ZRA) เป็นการใช้เทคนิคไฟฟ้าเคมีอีกวิธีหนึ่ง โดยการใช้การวัดกระแสไฟฟ้าของวัสดุซึ่งมีความต่างศักย์ไฟฟ้าของสองวัสดุ ผลลัพธ์ที่ได้คือการให้ข้อมูลเกี่ยวกับปริมาณออกซิเจนในตัวกลาง (oxygen content in the media).
การตรวจสอบความหนาด้วยคลื่นเสียง (Ultrasonic Thickness Monitoring) เป็นวิธีที่ใช้กันทั่วไปในการวัดความหนาของของวัตถุ (wall thickness) วิธีการนี้มีความถูกต้องแม่นยำสูงในการตรวจวัดและสามารถทำการตรวจวัดพื้นผิวของวัตถุที่มีใหญ่ได้โดยการใช้คลื่นอัลตราโซนิก (ultrasonic waves) ที่สร้างจากเซ็นเซอร์ที่ติดตั้งอยู่ภายนอก.
การตรวจวัดการกัดกร่อน (corrosion monitoring) เป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพและได้รับการพิสูจน์มาอย่างยาวนานแล้วว่า สามารถลดการหยุดกระบวนการผลิตโดยไม่จำเป็น (facility shutdown), และช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายจำนวนมากให้กับบริษัท และยังเป็นเรื่องปรกติที่จะต้องใช้วิธีการตรวจสอบหลายๆแบบร่วมกันเพื่อประสิทธิภาพและประสิทธิผลอันสูงสุด.
JST Group ซึ่งเป็นพันธมิตรกับ COSASCO® ผู้ให้บริการชั้นนำระดับโลกด้านอุปกรณ์ตรวจสอบการกัดกร่อน (corrosion monitoring) ตั้งแต่ปี 1950, สำหรับทุกคนที่ต้องการระบบการตรวจสอบการกัดกร่อน (corrosion monitoring).
Copyright © 2022 JST Group. All Rights Reserved
Cookie | Duration | Description |
---|---|---|
cookielawinfo-checkbox-analytics | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Analytics". |
cookielawinfo-checkbox-functional | 11 months | The cookie is set by GDPR cookie consent to record the user consent for the cookies in the category "Functional". |
cookielawinfo-checkbox-necessary | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookies is used to store the user consent for the cookies in the category "Necessary". |
cookielawinfo-checkbox-others | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Other. |
cookielawinfo-checkbox-performance | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Performance". |
viewed_cookie_policy | 11 months | The cookie is set by the GDPR Cookie Consent plugin and is used to store whether or not user has consented to the use of cookies. It does not store any personal data. |